Your cart is currently empty!
-
Sustainable Wardrobe
Sustainable wardrobe /ตู้เสื้อผ้าแห่งความยั่งยืน ถ้าหากพูดถึงเทรนด์การรักษ์โลก เทรนด์เรื่องความยั่งยืน ที่ตอนนี้ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ที่มีผลกระทบกับทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ รวมถึงตัวพวกเราเองด้วย ทำให้หลายๆคนเริ่มหันมาปรับปรุงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากสุด คือเรื่องแฟชั่น เครื่องแต่งกาย เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคนตลอด 24 ชม. เคยลองนับกันเล่นๆไหมคะว่า เรามีเสื้อผ้ากันกี่ตัว? มีชุดกันกี่ชุด? ถ้ารู้จำนวนที่แท้จริง พวกเราอาจจะต้องตกใจ กับเสื้อผ้าจำนวนมากมายที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า เกินความจำเป็นไปมากๆก็เป็นได้ มีรายงานการตีพิมพ์จากสถาบัน Berlin think tank Hot or Cool แนะนำว่า ตู้เสื้อผ้าที่พอเหมาะ ควรจะมีเสื้อผ้า 74 ชิ้น และชุด 20 ชุด รู้จำนวนที่แนะนำกันแล้ว ลองกลับไปสำรวจตู้เสื้อผ้ากันดูนะคะ ว่าพวกเราเข้าข่ายตู้เสื้อผ้ารักษ์โลกกันไหม คงต้องยอมรับแล้วว่า อุตส่าหกรรมแฟชั่นเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะ Fast fashion ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่เป็นตัวการปล่อยมลพิษให้โลกของพวกเรา และยังมีขยะจากเสื้อผ้ามหาศาลที่ถูกนำมาทิ้งเป็นขยะเท่าภูเขาในทุกๆปี ซึ่งขยะเหล่านี้ถูกนำไปกลบใต้ดิน และบางส่วนก็ถูกทิ้งลงทะเล ซึ่งส่งผลกระทบกับสภาพแวดล้อม…
-
Caring for linen clothes
วิธีการดูแล และรักษาชุดผ้าลินินตัวโปรดของคุณ– สามารถซักมือ และซักเครื่องได้ ซักน้ำอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศา ถ้าซักเครื่องให้เลือกใช้ระบบ ซักที่อ่อนโยนและใช้น้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนโยน ไม่ใช้สารฟอกขาว และสารเคมีรุนแรง ให้กลับด้านชุดก่อนซัก ไม่ควรบิดผ้า เพราะจะทำให้เส้นใยผ้าหักและยับง่าย-ตากผ้าในที่ ที่มีลมโกรก ควรตากด้วยไม้แขวน หรือวางราบบนผ้าที่สะอาด การทำความสะอาดคราบสกปรก-ทำความสะอาดจุดสกปรก ด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ แล้วเอาไปเช็ดตรงคราบสกปรก-ถ้าเป็นคราบที่เกิดจากน้ำมัน ให้โรยด้วยแป้ง ( Talcum) ที่คราบสกปรก ทิ้งไว้สักครู่ และปัดแป้งออก ก่อนนำไปซักทำความสะอาด การรีดผ้าลินิน– ลินินเป็นผ้าที่ยับง่าย ควรรีดผ้าลินินตอนที่ผ้ายังหมาดๆ จะช่วยให้รีดง่ายและเรียบมากขึ้น-ให้ใช้ผ้ารองเตารีดในการรีด ไม่ควรรีดไปที่เนื้อผ้าโดยตรง เพื่อหลีกเหลี่ยงการขึ้นเงาที่ตัวผ้า การเก็บรักษาชุดลินินตัวโปรดของคุณ-ควรเก็บผ้าลินินในที่แห้ง และไม่ร้อน หลีกเหลี่ยงจากสถานที่ ที่มีแดดส่องถึง-เพื่อการรักษารูปทรงของชุด ให้เก็บด้วยวิธีการแขวนชุด หรือพับเก็บให้เรียบร้อยก็ได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบผ้าลินินเหมือนกันกับเรา ไม่มากก็น้อยนะคะ
-
Caring for silk clothes
1.เช็คสีตก ก่อนการนำชุดผ้าไหมไปซัก ให้เช็คก่อนว่าชุดผ้าไหมตัวโปรดของเราสีตกหรือไม่ ด้วยการนำผ้าขาวชุบน้ำ แล้วนำไปเช็ดที่ชุดผ้าไหม ถ้ามีสีติดออกมา ก็ให้ทำการแยกซักชุดผ้าไหม เพื่อป้องกันสีจากชุด ไปเปื้อนชุดอื่นๆ 2. จะเลือกซักมือ หรือ ซักแห้งก็ได้ ชุดผ้าไหมส่วนมาก สามารถซักมือ หรือซักแห้งได้ทั้งสองอย่าง โดยส่วนตัวไม่แนะนำให้ซักเครื่อง เพราะมีแรงปั่นที่มาก อาจทำลายเส้นใยของผ้า ทำให้ชุดเสียหาย เสียทรงได้ กรณีที่ซักมือ ให้ซักด้วยน้ำเย็นอุณหภูมิห้อง ไม่ซักกับน้ำร้อน เพราะอาจทำให้ผ้าหดตัวได้ แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนโยน น้ำยาซักผ้าเด็ก หรือสบู่ก้อนก็ได้ ให้ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำ ผสมจนเข้ากัน ไม่ควรเทน้ำยาลงที่ผ้าโดยตรง อาจทำให้ผ้าไหมด่างได้ เมื่อผสมน้ำซักเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เอาชุดผ้าไหมแช่น้ำ และขยี้อย่างเบามือ การขยี้แรงทำให้เส้นใยของผ้าไหมเสียรูปทรงได้ จากนั้นนำชุดผ้าไหมมาล้างด้วยน้ำเปล่าอย่างเบามือเช่นกัน ไม่ควรบิดผ้า ควรสะเด็ดน้ำออกจากชุด หรือใช้ผ้าเช็ดตัวห่อชุดเพื่อซับน้ำออกจากชุด ก่อนที่จะนำไปตาก 3.การตากชุดผ้าไหม ตากในที่ ที่มีลมโกรก ไม่ตากกลางแดด และไม่ใช้ที่หนีบผ้าหนีบชุดผ้าไหม เพราะทำให้เกิดรอยที่ชุดได้ ให้ตากผ้าด้วยการวางราบกับราวตากผ้า 4.การรีดชุดผ้าไหม ถ้าจำเป็นต้องรีดชุดผ้าไหม ให้รีดด้วยความร้อนเบาสุดของเตารีดที่ตั้งค่าไว้ ไม่ควรรีดเตารีดลงที่ชุดผ้าไหมโดยตรง ควรนำผ้ามารองรีด หรืออาจใช้แผ่นรองหน้าเตารีด ก็เป็นอีกทางเลือก…
-
History of Silk
ประวัติความเป็นมาของผ้าไหมโดยย่อ ผ้าไหม มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ย้อนกลับไปเมื่อ 5,000 ปี ในยุคสมัยของจักรพรรดิเหลือง เมื่อพระอัครมเหสี ซี่หลิงชื่อ Xi Ling Shi ของพระองค์ ได้พบตัวดักแด้ไหมใกล้ใบชาของพระนาง จากนั่น พระนางเป็นผู้คิดค้นการเลี้ยงใหม พร้อมด้วยผ้าไหม และการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม พระนางได้รับฉายาว่า เป็นเทพธิดาแห่งผ้าไหม ขั้นตอนการผลิตผ้าไหมในยุคนั้น ยังคงปกปิดเป็นความลับ ห้ามผู้ใดนำวิธีการผลิตผ้าไหมไปเผยแพร่โดยเด็ดขาด ถ้าผู้ใดไม่ปฎิบัติตาม อาจมีโทษถึงประหารชีวิตเลยทีเดียว จากนั้นไม่นาน ผ้าไหม ก็ได้ชื่อว่าเป็นสินค้าหรูหรา ราคาแพง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผ้าที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล เบาสบาย และให้ความเงางามตามธรรมชาติ เส้นทางสายไหม เส้นทางการค้า ที่เชื่อมโยงคนเอเชีย และคนตะวันตกเข้าด้วยกัน นี่คือเส้นทางการค้าที่สำคัญที่ได้นำผ้าไหมจากจีน ให้ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก นอกจากผ้าไหมแล้ว เส้นทางการค้าเส้นนี้ ก็ยังเป็นเส้นทางการค้าที่คนทั้งสองทวีปยังได้แลกเปลี่ยนสินค้าชนิดอื่นๆ รวมถึงด้านวัฒนธรรมอีกด้วย ในสมัยจักรวรรดิโรมัน ผ้าไหมกลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและสถานะของผู้ครอบครอง ความต้องการผ้าไหมในโลกตะวันตก ได้นำไปสู่การทำการค้าขายที่ร่ำรวยระหว่าง จักรวรรดิโรมันและกับจีน ในเวลาต่อมา ความรู้และวิธีการผลิตผ้าไหม ได้แผ่ขยายไปทั่วภูมิภาคของจีน รวมถึงประเทศใกล้เคียง อย่างเช่น อินเดีย,…
-
Linen
ประวัติและความเป็นมาของผ้าลินิน Linen fabric ผ้าลินิน คือผ้าที่ผลิกตจากเส้นใยของพืช Flax (Flax Plant) ลินินได้ชื่อว่า เป็นผ้าที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ,ยุคเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) และพื้นที่อื่นไ ในแถบตะวันออกกลาง ชาวอียิปต์ มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการนำต้นแฟลกซ์มาทำเป็นผ้าลินิน ลินินในสังคมของอียิปต์โบราณมีความสำคัญ ลินินหมายความถึงความบริสุทธิ์ และผ้าลินินก็จำกัดเอาไว้เฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้น ไม่ได้ใช้กันทั่วไปเหมือนในปัจจุบัน แล้วผ้าลินินยังนำมาใช้เป็นผ้าห่อมัมมีในอียิปต์ เพราะมีความเชื่อว่าลินินจะช่วยป้องกันและเก็บรักษาร่างเอาไว้ได้นาน ในช่วงยุคกลาง หลังจากผ้าลินินได้รับความนิยมที่ตะวันออกกลาง , อียิปต์ มาได้สักระยะ แล้ว ความรู้และเทคนิกในการทำผ้าลินิน ก็ได้แผ่ขยายไปทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะในประเทศเบลเยียม เนเธอแลนด์ และไอซ์แลนด์ มาถึง ค.ศ 18 เป็นช่วงยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม การผลิตผ้าลินิน จากที่เคยผลิตโดยมือเพียงอย่างเดียว ก็เริ่มนำเครื่องจักรมาผลิตแทน แต่การผลิตผ้าลินิน ก็ยังถือว่ามีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เมื่อเทียบกับผ้าฝ้าย Cotton และผ้าชนิดอื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่าในการผลิต ส่งผลให้ผ้าลินินยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร จนมาถึงยุคปัจจุบัน ผ้าลินินได้รับความนิยม จากการที่ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสภาพแวดล้อมมากขึ้น และด้วยคุณสมบัติเด่นของผ้าลินินที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ ที่มีความคงทนกว่าผ้าฝ้ายหลายเท่า เป็นผ้าที่ช่วยระบายความร้อน ดูดซับเหงื่อได้ดี…